นอกจาก Facebook ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ใช้เป็นแหล่งขายสินค้า, Google Ads ก็เป็นแหล่งที่ห้ามพลาด เพราะความต้องการของผู้ใช้ส่วนใหญ่ปรากฎอยู่ในการค้นหาใน Google
แต่ถ้าโฆษณาของเราไม่น่าสนใจ แม้เราจะเสียเงินในการโฆษณา ก็ไม่ได้หมายความว่าจะดีเสมอ จึงควรพัฒนาโฆษณาที่น่าสนใจ โดยคัดสรร Unique Selling Point (USP) ของแบรนด์หรือสินค้า เพื่อเพิ่มปริมาณคลิกของโฆษณา
Table of contents
ส่วน USP ที่ว่าก็ประกอบไปด้วย 6 ข้อ
1. บอกไปว่าใครกันที่แบรนด์ของเราขายให้
ฟังไม่สมเหตุสมผลที่โฆษณาของเราเพียงตัวเดียวจะโดนใจตลาดทุกกลุ่ม การระบุว่าใครกันที่น่าจะสนใจสินค้าของเรา ก็ทำให้เกิดการคลิกเข้าดูเว็บฯได้มากกว่า ต่อให้สินค้าของเราจะเป็นสินค้าที่เป็น Mass market ก็ตาม
ฉะนั้นการทำ Segmentation มาก่อนที่จะเขียนโฆษณาให้กับแต่ละ segment ที่เราต้องการจึงสำคัญ แต่ละ segment มี Pain Point ที่แตกต่างกันอย่างไร ให้ระบุปัญหาในั้นในคำโฆษณา
2. บอกไปว่าเราขายอะไร
แน่นอนว่าคงบอกแค่ซื่อสินค้าอย่างเดียวไม่ได้แน่ การใส่เรื่องราวลงไปบ้างก็ทำให้สินค้าน่าสนใจ อย่าลืมว่าผู้บริโภคไม่ได้ซื้อสินค้า แต่ซื้อเพื่อ Get the Job Done
ส่วนเรื่องราวที่ว่า เราอาจจะเขียนเชิญชวนว่า ลูกค้า (ที่ซื้อสินค้าของเราไป) ได้ผลลัพธ์ที่ลูกค้าต้องการได้อย่างไร? โดยผลลัพธ์ที่ว่าก็เขียนให้คนอ่านแปลกใจด้วย
3. นำเสนอลักษณะของสินค้าที่แปลกใหม่
ลองเอาสินค้าของเรากับของคู่แข่งมาเทียบกัน แล้วดูว่าสินค้าของเราทำอะไรได้แต่เป็นสิ่งที่สินค้าคู่แข่งทำไม่ได้ สินค้าของเราอาจจะให้ประโยชน์หรือผลลัพธ์ที่เจาะจงลงไป มีสถิติที่น่าสนใจรองรับ มีคุณภาพที่เกินความคาดหมาย (แต่ต้องไม่เกินจริง) หรือมีวิธีการชำระเงินที่โดนใจกลุ่มเป้าหมาย
4. นำเสนอสิ่งที่สินค้าของเราจะไม่มีวันทำ
ถ้าเขียนผลดีจากการใช้สินค้าของเราแล้วไม่ได้ผล ลองเขียนผลเสียจากการที่ไม่ได้ใช้สินค้าของเรา หรือบอกสิ่งที่ลูกค้าไม่ต้องการและไม่มีในสินค้าของเรา เช่นเครื่องดื่มของเราไม่มีน้ำตาล เป็นต้น หรือ พูดอีกอย่างหนึ่งเราเขียนในเชิง Negative promise นั่นเอง
5. บอกระยะเวลาจำกัดของโปรโมชั่น
เราสามารถบอกระยะเวลาที่ลูกค้าจะได้รับประโยชน์จากสินค้าหรือบริการของเราได้ (ตราบใดที่เราไม่ได้หลอกลวง) ยิ่งเรากำหนดตัวเลขระยะเวลาที่เจาะจง ชัดเจน ไม่เกิดความเข้าใจที่คลากเคลื่อน โฆษณาของเราก็จะยิ่งน่าเชื่อถือในสายตาคนอ่านทันที
6. บอกให้ลูกค้ารู้ว่าสินค้าของเรามีการันตี
แสดงถึงความรับผิดชอบหากสินค้าของเราทำไม่ได้ตามที่เราโฆษณาเอาไว้ เช่นคืนเงินลูกค้า 2 เท่าของราคาเดิม เปลี่ยนสินค้าได้ หรือสามารถใช้บริการได้อีกครั้งโดยไม่คิดเงิน บางร้านถึงขนาดคืนเงินให้แถมยอมเปลี่ยนสินค้าให้เป็นสินค้าของคู่แข่งเลยก็มี
ความท้าทายอย่างหนึ่งคือการเขียน USP ทั้ง 6 ข้อลงในจำนวนคำที่จำกัด ฉะนั้นควรเขียนครบทุกช่องและเหลือจำนวนตัวอีกษรให้น้อยที่สุด
องค์ประกอบ 6 ข้อของ Unique Selling Point จะทำให้โฆษณา Google Ads ของเรามีคนคลิกมากขึ้น ลด Loss Rank เพิ่ม Impression Share ทำให้โฆษณาของเราปรากฎบ่อยกว่าเดิมเมื่อมีคนค้นหาด้วย keyword ที่เราตั้งไว้ เราอยากให้ลองเขียนคำโฆษณาไว้หลายๆแบบ ลองดูว่าตัวไหนเพิ่มคลิก และ CTR ได้มากที่สุด ได้ผลอย่างไร มาเล่าให้ฟังได้นะครับ