WordPress เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่ใช้สร้างและจัดการเนื้อหาเว็บไซต์ประเภท Contents Management System (CMS) ซึ่งเขียนด้วยภาษา PHP และใช้ระบบจัดการฐานข้อมูล MySQL โดยมีส่วนประกอบหลักๆ คือ
- WordPress Core เป็นซอฟแวร์หลัก ใช้จัดการเว็บไซต์ เนื้อหาและบทความต่างๆ
- Theme เป็นส่วนที่กำหนดดีไซน์หรือรูปแบบการแสดงผลบนหน้าเว็บไซต์
- Plugin เป็นส่วนที่ช่วยเพิ่มความสามารถให้กับ WordPress เช่น ระบบสร้างหน้าเว็บไซต์ ระบบจัดการสินค้า, ระบบ Booking และอื่นๆ
WordPress มีระบบจัดการบทความ หรือที่เรียกว่า “ระบบหลังบ้าน (Dashboard)” สามารถช่วยสร้างและจัดการข้อมูลเนื้อหาต่างๆ บนเว็บไซต์ได้ง่ายและสะดวกต่อการใช้งานมาก โดยไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดโปรแกรมมาติดตั้งในเครื่อง และผู้ที่ใช้งานไม่ต้องเสียเวลาในการเขียนโค้ด
Table of contents
องค์ประกอบของ WordPress
ระบบของ WordPress ทั้งสองระบบจะมีองค์ประกอบและลักษณะในการทำงานเหมือนกัน คือ จะมีส่วนของระบบหลัก (Core System) ที่ทำหน้าที่ในการจัดการและประมวลผลข้อมูลที่ได้รับจากผู้ใช้งาน ผ่านพื้นที่การทำงานของระบบหลังบ้านที่แบ่งโครงสร้างต่างๆ ได้แก่ เมนูเรื่อง (Posts) หน้า (Pages) การปรับแต่ง (Customize) การตั้งค่า (Settings) การเพิ่มธีม ปลั๊กอินและอื่นๆ ซึ่งเมื่อเราทำการใส่ข้อมูลภายในหลังบ้านของเราแล้ว ผลจะแสดงมายังหน้าเว็บไซต์ของเราที่อยู่ทางด้านหน้าเพื่อแสดงให้ผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์เห็น
โปรแกรม WordPress มีการสนับสนุนระบบธีม (Themes) ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกธีมได้หลากหลายตรงตามความต้องการ และช่วยให้หน้าตาของเว็บไซต์ของเรามีความสวยงามขึ้น เราสามารถเพิ่มขีดความสามารถให้กับระบบเว็บไซต์ของเราได้โดยการเพิ่ม Plugin ต่างๆ เช่น ระบบการขายของออนไลน์ ระบบคอร์สอนออนไลน์ ระบบการจอง ซึ่งชะช่วยให้เว็บไซต์ของเรามีประสิทธิภาพในการใช้งานได้มากยิ่งขึ้น
รูปแบบของ WordPress
WordPress สามารถแบ่งได้เป็น 2 แบบ คือ WordPress.com และ WordPress.org โดยความแตกต่างกันนั้นจะอยู่ตรงที่ WordPress.com จะเป็นลักษณะการให้บริการแบบ Host Service โดยบริการจะมีทั้งแบบฟรีและเสียเงิน แต่ WordPress.org นั้น จะเป็นการใช้งานในกรณีผู้ใช้ที่ต้องการใช้โดเมนและพื้นที่เก็บข้อมูล (host) ของตนเอง ผ่านบริษัทโฮสติ้งต่างๆ ทั้งในประเทศหรือนอกประเทศ
• WordPress.com
เป็นบริการเว็บไซต์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมี Blog เป็นของตัวเองหรือผู้ที่เริ่มต้นทดลองใช้งานเว็บไซต์ เพราะเพียงแค่สมัครสมาชิกกับทาง WordPress.com ก็สามารถใช้งานได้ฟรีทันที แต่จะมีความยืดหยุ่นน้อย เพราะวาส Theme และ Plugin เราไม่สามารถที่จะนำ Theme และ Plugin จากภายนอกมาติดตั้งได้ ส่วนชื่อของเว็บไซต์จะสามารถใช้ได้ในรูปแบบซัพโดเมน คือ “ชื่อบล็อกของเรา.wordpress.com” เช่น cat.wordpress.com, dog.wordpress.com เป็นต้น
เราสามารถอัพเกรดความสามารถของเว็บไซต์ได้โดยการชำชะเงินค่าบริการเพิ่มเติม (ชำระเป็นรายปี) ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายตามความต้องการและตอบโจทย์การใช้งานของคุณมากขึ้น เช่น จดชื่อโดเมนเป็นของตัวเอง, ปรับเปลี่ยน Theme ให้มีลูกเล่นมากขึ้น, เพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูล, ลง Plugin เพิ่ม เป็นต้น
• WordPress.org
เราสามารถดาวโหลดซอฟต์แวร์ได้ฟรี เพื่อมาติดตั้งที่ Hosting (พื้นที่สำหรับเก็บข้อมูลของเว็บไซต์) ของเรา และสามารถสร้างเว็บไซต์ได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะแต่งหน้าเว็บหรือนำ Theme และ Plugin จากภายนอกมาติดตั้ง หรือการทำเว็บไซต์แบบ E-commerce ที่มีระบบตะกร้าสินค้า เป็นต้น
ในปัจจุบันเว็บไซต์ส่วนใหญ่นิยมใช้ WordPress จึงทำให้เราเสียค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ ต่างหาก ทั้งการจดโดเมนการเช่า Hosting ซึ่งค่าบริการต่างๆ ก็ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของ Hosting รวมถึงค่าใช้ข่ายในการออกแบบเว็บไซต์ในกรณีที่เราไม่สามารถสร้างได้ด้วยตัวเอง แต่ส่วนใหญ่นิยมเลือกซื้อ Theme จากเว็บไซต์ themeforest.net เพราะมีรูปแบบให้เลือกมากมายและมีราคาไม่สูง และการติดตั้ง Theme ที่เราได้เลือกซื้อมาก็ไม่ยุ่งยากจนเกินไป สามารถซึกษาและทำได้เองตามคู่มือจาก Theme ที่ซื้อมา
ทำไมต้องใช้ WordPress
เหตุที่ต้องใช้ WordPress คือ เป็นโปรแกรมสำหรับสร้างเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมสูง สามารถติดตั้งได้ง่าย มีระบบการใช้งานที่ช่วยสนับสนุนที่ช่วยให้ผู้ใช้งานทำเว็บไซต์เป็นของจนเองได้ง่านและเร็วขึ้น มีกลุ่มผู้ใช้งานเป็นจำนวนมากที่สอนการใช้งาน พัฒนา และให้คำปรึกษา มี Community ขนาดใหญ่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สามารถทำงานได้หลายภาษาและมีภาษาไทยรองรับด้วย WordPress ได้มีการพัฒนาระบบให้มีทั้งประสิทธิภาพ มีความยืดหยุ่นสูงและมีความปลอดภัย ซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้บริษัทหลายๆ บริษัทให้ความเชื่อถือและยอมรับการใช้งาน
WordPress Theme
WordPress Theme หรือที่เราเรียกกันสั้นๆ ว่า “ธีม” เป็นเหมือนหน้าตาภาพลักษณ์ของเว็บไซต์ที่เราสามารถเลือกใช้งานทั้งแบบฟรีและเสียเงิน ส่วนความแตกต่างของธีมฟรีและเสียเงินนี้อยู่ที่การปรับแต่ง WordPress ที่จะมีความยากง่ายมากน้อย แตกต่างกันไป ในกรณีที่เราต้องการเลือกใช้งานธีมฟรี เราสามารถเลือกได้จากเว็บไซต์ WordPress.org และในกรณีที่เราจะทำการสั่งซื้อ เราสามารถสั่งซื้อได้จากเว็บที่ให้ขายธีมโดยเฉพาะ ยกตัวอย่างเช่น Themeforest.net เป็นต้น
Theme ยอดนิยมที่ใช้งาน ได้แก่ Avada, The7, Betheme, Flatsome, WoodMart, Newspaper เป็นต้น
ปลั๊กอิน WordPress
ในส่วนของปลั๊กอินนี้ เป็นเหมือนอุปกรณ์เสริมที่ช่วยเพิ่มความสามารถให้กับ WordPress หรือเว็บไซต์ของเรา มีหลายกลุ่ม หลายหมวดหมู่ ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการเพิ่มศักยภาพของเว็บไซต์ของเราในด้านไหน เช่น ในหมวดของการตกแต่งหน้าตาเว็บไซต์ (Page Builder) และในส่วนการขายของออนไลน์ (Online Shopping) คอร์สออนไลน์ (Course Online) การจอง (Booking) แปลภาษา (Translation) ระบบเมล์ (Mail) ฟอร์มต่างๆ (Form) ความเร็วเว็บไซต์ (Speed) และความปลอดภัย (Security) เป็นต้น
ปลั๊กอินยอดนิยมที่ใช้กัน ได้แก่ Elementor, Divi Builder, WooCommerce, Contact Form 7, Yoast SEO, LayerSlider, Smush, Polylang, MonsterInsights เป็นต้น