การสร้าเว็บไซต์ในปัจจุบันง่ายกว่าการสร้างเว็บในอดีตเนื่องจากมีโปรแกรมสำเร็วรูปคอยช่วยเหลือผู้ที่สร้างเว็บไซต์มือใหม่ โดยโปรแกรมที่มีชื่อเสียง WordPress นั้น เป็นระบบสร้างเว็บไซต์สำเร็วรูปที่เข้าใช้งานง่ายผ่านระบบอินเตอร์เน็ต มีความโดดเด่นในเรื่องการใช้งานที่สะดวกและมีเครื่องมือเสริมที่ช่วยให้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดย WordPress เป็นหนึ่งในโปรแกรมที่เหมาะกับการทำ SEO ที่ช่วยทำให้เว็บไซต์แสดงผลใน Search Engine ในอันดับต้นๆ อย่าง Google
Table of contents
- ข้อดีของเว็บไซต์ WordPress ในด้านการทำ SEO
- 1. ใช้สร้างเว็บไซต์ได้ง่าย แทบไม่ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ด
- 2. อัพเดตข้อมูล เพิ่มเติมหน้าเว็บไซต์ต่างๆ ได้อย่างอย่างสะดวก
- 3. มี Theme สำเร็จรูปให้เลือกหลากหลายแบบและสวยงาม
- 4. โครงสร้างเว็บไซต์เป็นมิตรกับ Google เหมาะต่อการทำ SEO
- 5. จัดการ Metadata ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของ การทำ SEO ได้อย่างสะดวก
- 6. สร้าง Permalinks กำหนด URL ให้เป็นมิตรกับ SEO ได้ไม่ยุ่งยาก
- 7. ช่วยปรับแต่งขนาดรูปภาพบนเว็บไซต์ได้อย่างอัตโนมัติ
- 8. มี Plugin ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำ SEO
- 9. เชื่อมต่อกับ Social Media และกำหนดการแสดงผลได้อย่างสะดวก
- 10. มีการอัพเดตสม่ำเสมอและมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง
ข้อดีของเว็บไซต์ WordPress ในด้านการทำ SEO
1. ใช้สร้างเว็บไซต์ได้ง่าย แทบไม่ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ด
WordPress เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปแบบ CMS (Contents Management System) ที่สามารถเข้าใช้ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตได้ทันที ทำให้ใช้งานง่ายและมีรูปแบบเว็บไซต์ให้เลือกหลากหลายแบบตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็น Blog เว็บไซต์องค์กร หรือเว็บไซต์ขายของ ผู้สร้างเว็บไซต์มีหน้าที่แค่นำข้อมูลเพิ่มลงเว็บไซต์ ทำให้ผู้เริ่มต้นสร้างเว็บไซต์ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ดอย่าง PHP HTML CSS หรือ JavaScript ทำให้มีเว็บไซต์ได้เร็วขึ้นไม่เหมือนในอดีต
2. อัพเดตข้อมูล เพิ่มเติมหน้าเว็บไซต์ต่างๆ ได้อย่างอย่างสะดวก
การทำ SEO มีปัจจัยที่สำคัญ คือ การทำเว็บไซต์ให้มีความสดใหญ่อยู่เสมอ ผู้สร้างเว็บไซต์ควรที่จะอัพเดตข้อมูลและเพิ่มหน้าเว็บไซต์อยู่ตลอด เนื่องจาก WordPress เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปประเภท CMS ที่มีระบบจัดการบทความหรือที่เรียกว่าระบบหลังบ้าง (Dashboard) จึงช่วยจัดการเนื้อหาบนเว็บไซต์ในอย่างสะดวกสบาย
3. มี Theme สำเร็จรูปให้เลือกหลากหลายแบบและสวยงาม
Theme ใน WordPress เป็นส่วนที่กำหนดดีไซน์และการแสดงผลของเว็บไซต์ เรียกได้ว่าเป็นหน้าตาของเว็บไซต์ เพราะหากเว็บไซต์มีหน้าตาสวยงามแล้ว ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราก็จะอยู่บนเว็บไซต์เรานานขึ้นและทำให้ผู้เยี่ยมชมอยากที่จะกลับเข้ามาที่เว็บไซต์อีก ซึ่งประสบการณ์การใช้งานเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อการทำ SEO ด้วยกันทั้งสิ้น นอกจากนี้ WordPress เองก็มี Theme ให้เลือกมากมายมีทั้งแบบฟรีและจ่ายเงิน การติดตั้งใช้งานก็ง่ายสามารถใช้ได้ทันที
4. โครงสร้างเว็บไซต์เป็นมิตรกับ Google เหมาะต่อการทำ SEO
Search Engine ทีมีการใช้งานมากที่สุดก็คือ Google การสร้างเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับการจัดอันดับจะช่วยให้เว็บไซต์แสดงผลเป็นอันดับต้นๆ ใน Google ได้ โดยการสร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress ที่มีโครงสร้างที่เป็นมิตรกับ Google ด้วย นอกจากนี้แล้วการทำ SEO ก็ยังเกี่ยวข้องกับการทำหน้าเว็บไซต์ให้เหมาะกับการใช้งานบนสมาร์ทโฟน (Mobile Friendly) เพื่อเป็นการเพิ่มคะแนนให้กับเว็บไซต์ในการจัดอันดับ
5. จัดการ Metadata ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของ การทำ SEO ได้อย่างสะดวก
Metadata คือ ส่วนที่จะทำให้ผู้ที่ใช้ Search Engine รู้ว่าหน้าเพจนั้นๆ มีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร ซึ่งประกอบไปด้วย
- Title คือ ชื่อของหน้าเพจ
- Meta Description คือ คำอธิบายเกี่ยวกับหน้าเว็บไซต์ว่าเกี่ยวกับเรื่องอะไร ซึ่งไม่ควรสั้นหรือยาวจนเกินไป
โดย WordPress นั้นเป็นโปรแกรมที่คอยช่วยจัดการ Metadata ได้อย่างสะดวก โดย Metadata จะอยู่ในส่วน Head ของ HTML ทั้งนี้ทั้งสองส่วนจะส่งผลต่อการทำ SEO เป็นอย่างมากและที่สำคัญควรที่จะคำนึงถึงการแทรก Keyword ลงไปใน Metadata ด้วย
6. สร้าง Permalinks กำหนด URL ให้เป็นมิตรกับ SEO ได้ไม่ยุ่งยาก
Permalinks เป็นส่วนที่แสดงผล URL หรือการตั้งลิ้งแบบถาวรให้กับเว็บไซต์ เป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อการสร้างเว็บไซต์และการทำ SEO เพราะว่า URL ที่ไม่สั้นไม่ยาวจนเกินไปจะช่วยให้ผู้อ่านจดจำเว็บไซต์ได้ง่าย และทำให้ผู้ใช้ WordPress สามารถสร้าง Permalinks ได้ง่ายๆ ด้วยการตั้งค่าที่ Permalink Setting โดย Permalink มีให้เลือกหลายรูปแบบ เช่น แสดงเป็นวันและชื่อ แสดงเป็น /Blog/ชื่อบทความ หรือจะแสดงตามความต้องการของผู้สร้างเว็บไซต์ แต่ที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือ Post Name เพราะเป็นการแสดงชื่อของบทความโดยตรง ช่วยให้ผู้อ่านจำชื่อบทความได้ง่ายและรู้พอสังเขปว่าบทความนั้นเกี่ยวกับเรื่องอะไร
7. ช่วยปรับแต่งขนาดรูปภาพบนเว็บไซต์ได้อย่างอัตโนมัติ
รูปภาพที่ปรากฏในเว็บไซต์เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อการทำ SEO เพราะนอกจากรูปภาพจะเป็นสิ่งที่ดึงดูดในคนเข้ามาในเว็บไซต์แล้ว ขนาดภาพก็ส่งผลต่อความเร็วของการดาวน์โหลดหน้าเว็บไซต์ (Page Speed) โดย WordPress ก็มีระบบที่ช่วยปรับขนาดภาพให้เหมาะสมเพื่อลดระยะเวลาในการดาวน์โหลดหน้าเพจ ซึ่งช่วยเสริมสร้างประสบการณ์อันดีให้กับผู้เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ นอกจากนี้ WordPress ยังสามารถใส่ Keyword ในคำบรรยายรูปภาพ หรือที่เรียกว่า alt (Alternative Text) ของแต่ละรูปภาพได้อย่างสะดวก เพื่อให้ Search Engine รู้ว่ารูปภาพนี้คืออะไร
8. มี Plugin ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำ SEO
จุดเด่นที่สำคัญของ WordPress คือ Plugin ซึ่งเป็นส่วนเสริมสำคัญที่คอยช่วยเพิ่มให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยให้ผู้ใช้งานมีประสบการณ์อันดีกับเว็บไซต์มากยิ่งขึ้น อีกทั้ง Plugin ใน WordPress ก็มีให้เลือกมากมายหลายแบบ อย่างไรก็ตามคุณควรเลือกใข้ Plugin ให้เหมาะสมกับเว็บไซต์ที่คุณทำมากที่สุด สำหรับ Plugin ที่เหมาะสมกับการทำ SEO มีหลายตัว เช่น Yoast SEO, All in One SEO for WordPress (AIOSEO), SEOPress, Rank Math เป็นต้น ที่สามารถช่วยปรับแต่งบทความให้เหมาะกับผู้อ่านและ Search Engine
9. เชื่อมต่อกับ Social Media และกำหนดการแสดงผลได้อย่างสะดวก
ถึงแม้ว่าโซเชียลมีเดียจะไม่ได้เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการทำ SEO โดยตรง แต่โซเชียลมีเดียอย่าง Facebook และ Twitter รวมไปถึงช่องทางอื่นๆ ก็ช่วยให้ผู้คนเข้าถึงเนื้อหาบนเว็บไซต์ได้มากยิ่งขึ้น และส่งผลต่อการจัดอันดับบน Search Engine โดย WordPress มี Plugin จำนวนมากที่ช่วยเชื่อมต่อเว็บไซต์กับโซเชียลมีเดีย เช่น การเพิ่มปุ่มแชร์บทความลงบนโซเชียลมีเดีย เพื่อให้ผู้อ่านแชร์บทความจากเว็บไซต์ได้สะดวก
10. มีการอัพเดตสม่ำเสมอและมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง
ความปลอดภัยของเว็บไซต์เป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการทำ SEO เพราะหาก Search Engine ไม่สามารถตรวจจับระบบความปลอดภัยของเว็บไซต์ได้ Search Engine ก็จะทำเครื่องหมายไว้ว่าเว็บไซต์นี้เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งาน ทำให้ผู้ใช้งานไม่กล้าเข้ามาในเว็บไซต์อีกด้วย ด้วยเหตุนี้ WordPress จึงให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยด้วยระบบ WordPress Security ที่ช่วยอัพเดตความปลอดภัยให้กับเว็บไซต์อยู่เสมอ นอกจากนี้ยังสามารถดาวน์โหลด Plugin ที่ช่วยเสริมความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่งได้ด้วย เช่น Wordfence Security, Defender, iThemes Security, Sucuri เป็นต้น
ข้อดีต่างๆ ที่เรา SEOblackcat ได้บอกไปนั้น บ่งบอกว่า WordPress เป็นโปรแกรมที่มีโครงสร้างเหมาะสำหรับการทำ SEO เป็นอย่างมาก เนื่องจากมีความง่าย สะดวกสบายและปลอดภัย อักทั้งยังมีเครื่องมือต่างๆ อย่าง Theme และ Plugin ที่ช่วยเสริมให้ WordPress มีประสิทธิภาพ และยังมี Community ขนาดใหญ่เพื่อคอยช่วยเหลือเมื่อผู้ใช้งาน WordPress ประสบปัญหาต่างๆ